วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2559

Taiwan First Time Day4 เที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง วันที่4 (25/10/2016)

Taiwan First Time Day4 
เที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง วันที่4
25/10/2016



⭕️ อังคาร 24/10/2016
1) น้ำเต้าหู้ร้าน World Soybean Milk Magnate 世界豆浆大王  
2) พิพิธภัณฑ์กู้กง (8.30-18.00) 
3) Taipei 101 tower  / ห้าง ATT 4 Fun
4) สวน Zhongqiang Park ชมวิวตึก Taipei 101 
5) ตลาดกลางคืน Shilin


✅ ตื่น 6.30  สายหน่อยวันนี้ เพราะเมื่อวาน โค ตะ ระ เหนื่อย แฮร่ๆ

✅ 7.00 ออกเดินทางไปทานน้ำเต้าหู้ร้าน World Soybean Milk Magnate (1 ใน 10 ร้านน้ำเต้าหู้ที่ต้องลองในไทเป)  นั่ง MRT สายสีแดง Taipei main station > Dongmen Station (3 สถานี) / ต่อสายสีส้ม > Dingxi station (2 สถานี) รวมเดินทาง 17 นาที และใช้ exit 2 และเดินต่ออีกเพียง 170 เมตร จาก exit 2 ไปทางซ้าย ตรงไปจะเจอสี่แยกให้ข้ามถนนไปอีกฝั่ง และเดินตรงไปอีกนิดจะถึงร้านน้ำเต้าหู้ 

✅ 7.30 ถึง💡ร้าน 世界豆浆大王 เปิด 24ชม. เมนูแนะนำ 1) น้ำเต้าหู้หวาน/เค็ม 2) ไข่เจียวผัก และ 3)  เสี่ยวหลงเปา  วิธีสั่งก็คงต้องสั่งกับพนักงานโดยตรงนะครับ เพราะกระดาษที่ให้มาติก อ่านไม่ออกเลยซักคำ 5555 หลังจากสั่งไปไม่นานก็มาเสริฟ ซึ่งผมไม่รู้ท่าท่าไหนเอากล้องที่ใช้ถ่ายรูปถ่ายวิดีโอจุ่มน้ำเต้าหู้ร้อนๆซะยั่งงั้น สงสัยคงนึกว่าเป็นปาท่องโก๋ 55 ทำให้ถ่ายต่อได้อีกนิดหน่อย แล้วก็ไปเอ๋ออยู่หน้า พิพิธภัณฑ์ เศร้า !-_-!

✅ 8.20 เดินทางไป พิพิธภัณฑ์กู้กง (เปิด 8.30-18.00) จาก MRT Dingxi station สายสีส้ม > Dongmen Station (2 สถานี)  / ต่อสายสีแดง (สายที่ไป taipei main) > Shilin station (9 สถานี) รวมเดินทาง 38นาที ใช้ exit 1 และเดินไปต่อบัสสาย R30 (紅30), 304, 255

✅ 9.40 จาก MRT Shilin exit 1  เดินตรงขึ้นไปทางสี่แยก แล้วทางมุมขวาจะเจอวัตสัน ป้ายรถบัสอยู่หน้าวัตสัน

✅ 10.00 ขึ้นบัส R30, 255, 304  ราคา 15NT ก็ได้ ส่วนเราขึ้น255มาใช้ไปแค่ 7NT ประมาณ 30 นาที หรืออาจจะนานกว่าเพราะรถติดเหมือนกัน บัสจะจอดป้ายพิพิธภัณฑ์กู้กงเลย หรือจะเปิดGoogleMapดูก็จะพอกะได้ครับ

✅ 10.45 ถึง พิพิธภัณฑ์กู้กง (National palace museum : NPM) ค่าเข้า 250NT / locker เก็บสัมภาระ 10NT แต่ได้คืนนะแค่ใช้เหรียญหยอดให้หมุนกุญแจได้ แล้วเราเก็บกุญแจไว้ พอมาเอาของไขกุญแจมันจะคืนให้ (เปิดทุกวัน 8.30-18.30 วันศุกร์กับเสาร์เปิดถึง 21.00) เราใช้เวลาชม 2.30 ชม. ซึ่งไม่มีกล้องถ่าย เศร้า !-_-!

💡 พิพิธภัณฑ์กู้กงหรือพิพิธภัณฑ์วังต้องห้าม (National palace museum : NPM) (ชาวจีนจะเรียกพระราชวังต้องห้ามว่า กู้กง (จีน: 故宫; พินอิน: Gùgōng) ซึ่งแปลว่า พระราชวังเก่า) เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุด อาคารตัดแสดงสร้างเลียนแบบพระราชวังต้องห้ามปักกิ่ง เนื่องจากจัดแสดงสิ่งของล้ำค่าจากทุกราชวงศ์ของจีนกว่า 620,000 ชิ้น จนต้องหมุนเวียนจัดแสดงทุกๆ 3 เดือน เนื่องจากที่จัดแสดงไม่เพียงพอ ..แล้วสมบัติมหาศาลมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? ย้อนกลับไปสู่ช่วงหลังความพ่ายแพ้ในสงครามกลางเมืองของ "เจียง ไค เช็ก" ผู้นำฝ่ายประชาธิปไตย ต่อความยิ่งใหญ่ของกองทัพจีนแดงจากฝ่ายคอมมิวนิสต์ของ "เหมา เจ๋อตุง" จนต้องระเห็ดระเหินไปยังเกาะ "ฟอร์โมซา" หรือไต้หวันในปัจจุบัน พร้อมกับประชาชนฝ่ายสนับสนุน และหอบสมบัติล้ำค่าอายุกว่า 5 กว่า 620,000 ชิ้น ข้ามทะเลไปด้วย โดยต้องใช้ลังทั้งหมดถึง 2 หมื่นใบ   และการเดินเรือขนส่งนับสิบเที่ยว
💡Highlight : 
1) หยกรูปผักกาดขาวมีตั๊กแตนเกาะอยู่ (ซึ่งได้รับการจัดอันดับในความงดงามเป็นอันดับ 1 ของโลก) เป็นงานแกะสลักหยกสีขาว-เขียวในก้อนเดียว ใช้เป็นของหมั้นของคนในพระราชวังหลวงสมัยก่อน (ผักกาดขาวสื่อถึงการมีกินมีใช้ไม่อดหยาก) 
2) หยกหมูสามชั้น เกิดจากชั้นสีของหินตามธรรมชาติ พอแกะสลักออกมาเลยดูเหมือนหมูสามชั้นจริงๆ (ย้ายไปอยู่ที่ใหม่)
3) งาช้างแกะสลักภายใน 17 ชั้น และ 
4) ตราลัญจกรของจักรพรรดิเฉียนหลงที่ยิ่งใหญ่

✅ 13.30 เราหิวมากเลยไปทานร้านอาหารที่อาคารด้านนอก มี3ชั้นถ้าจำไม่ผิด เราไปกินชั้นใต้ดินร้านชื่ออะไรจำไม่ได้ แต่รู้สึกจะแพงและให้น้อย 5555

14.30 ขากลับขึ้นรถบัส R30 ใต้พระราชวัง อยู่ข้างล่าง (แต่ถ้ากลับ 255,304 ต้องไปขึ้นป้ายหน้าซุ้มประตูที่เดิม) ลงที่ป้าย MRT Shilin (Zhong Zheng) เยื้องวัตสันขามา

✅ 15.00 ถึงป้ายบัส MRT Shilin Station (Zhong Zheng) ก่อนจะเดินเข้าสถานีรถไฟเพื่อไปต่อ เราก็เห็นร้านชานมไข่มุกด้านซ้าย หน้าทางเข้าเลยจัดซะหน่อย ก็โอนะ

✅ 15.15 เนื่องจาก ทำเวลาไม่ได้ เลยตัดตลาดปลาไป ลุยต่อที่ตึก101เลย จากสถานี MRT Shilin station นั่งสายสีแดง ไปลง Taipei 101/World Trend Center ประมาณ 30 นาที ใช้ exit 4 (จุดชมวิวปิด 22.00 ทุกวัน / ร้านค้าปิด 21.30 / ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ปิด 22.00)

💡ตึกไทเป 101 เคยสูงที่สุดในโลก (จุดชมวิวปิด 22.00 ทุกวัน / ร้านค้าปิด 21.30 ยกเว้นศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ปิด 22.00) Taipei 101 หรือ Taipei World Financial Center เป็นตึกสูงระฟ้าที่ตั้งตระหง่านอยู่ในย่าน Xinyi ของกรุงไทเป ในอดีตเคยได้รับตำแหน่งเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกตั้งแต่ปี 2004 ซึ่งเป็นปีที่เปิดให้บริการจนถึงปี 2010 ก่อนจะโดนตึก Burj Khalifa  ที่กรุงดูไบแซงไป
Taipei 101 มีความสูงทั้งหมด 101 ชั้น (ชั้นใต้ดินอีก 5 ชั้น) กับความสูง 509 เมตร พร้อมกับการออกแบบให้เหมือนกระบอกไม้ไผ่พร้อมลวดลายประดับแบบจีนที่ดูโบราณและทันสมัยอย่างลงตัว ตัวอาคารแบ่งเป็น 2 ตึกคือส่วนที่เป็นอาคารสำนักงานที่เป็นตึกสูงกับส่วนที่เป็นห้างสรรพสินค้าที่ภายในประกอบด้วยร้านค้าแบรนด์เนมหลากหลายยี่ห้อ รวมถึงร้านอาหารอีกมากมาย โดยมีไฮไลต์อยู่ที่ร้าน Din Tai Fung ร้านเสี่ยวหลงเปาที่มีคนต่อคิวรอทานอยู่ตลอดทั้งวัน  
นอกจากร้านค้าแล้ว Taipei 101  ยังเปิดให้บริการจุดชมวิว Taipei 101 Observatory ให้กับเหล่านักท่องเที่ยวด้วย โดยจุดชมวิวแห่งนี้แบ่งเป็น 3 ชั้นคือจุดชมวิวติดกระจากชั้นที่ 89 จุดชมวิวแบบเอาต์ดอร์ชั้นที่ 91 (จะปิดเวลามีพายุเข้า) และชั้น 89 ซึ่งมีการจัดแสดงลูกตุ่มขนาดใหญ่ที่ใช้ถ่วงน้ำหนักไม่ให้ตึกระฟ้าโค่นเวลาเกิดแผ่นดินไหวพร้อมด้วยโซนขายสินค้าพวกเครื่องประดับต่างๆ ค่าเข้าชมตกคนละ 500 NT$ สำหรับผู้ใหญ่ครับ 
ระแวกนั้นยังมีห้างอีก 3-4 เช่น ห้าง ATT 4 Fun (ปิด 22.00) เป็นห้างของญี่ปุ่น มีของขายสไตล์ญี่ปุ่น 

✅ 15.45 เดินเล่นตึก101อยู่แปบนึง หันไปเห็นเมฆเลยคิดว่า ไปเขาช้างเลยดีกว่า ไปชมวิวจากจุดนั้นน่าจะสวยกว่า แถมขึ้นฟรี555

✅ 16.30 นั้งMRT สายแดงเหมือนเดินไปแต่สถานีเดียว Xingshan

✅ 16.40 ถึงสถานี Xingshan ใช้ exit 2 เดินออกมาจะเจอป้าย ให้เดินไปทาง Xingshan trail คือเดินตรงไปจะเจอร้านอาหาร Nola สีส้ม แล้วเดินไปทางซ้ายอีก 200 เมตร  โดยเดินโค้งขึ้นเนินไป โค้งทางขวาขนสุดทาง แล้วเลี้ยวขวาจะเจอวัด ให้เดินผ่านหน้าวัดไปอีกจะเป็นทางแคบๆ เดินลงไปนิดนึงจะเจอทางขึ้นภูเขาทางซ้ายมือ (จาก exit 2 จนถึงจุดขึ้นเขาประมาณ 1 กม. ใช้เวลาเดินประมาณ 30 นาที)

✅ 17.00 เราก็มาถึงทางขึ้น บอกได้เลยว่า ต้องฟิตครับผม แต่ถ้าค่อยๆขึ้น พักบาง เดินบ้างก็เอาที่สะดวก ข้างบนไม่มีน้ำขาย ติดไปด้วย หรือขนมกันหิวก็ดี อิอิ

✅ 17.20 เราขึ้นมาถึง ระเบียงที่เป็นจุดชมวิว จาดจุดนี้จะเดินขึ้นต่อเลยก็ไม่ไกล หรือจะแวะเดินไปห้องน้ำก่อนก็ได้ อยู่เลยจากจุดนี้ไปไม่ไกลเหมือนกัน

✅ 19.00 หลังจากถ่ายรูปกันหน่ำใจก็ลงจากเขา ด้วยความหิวมาก กอไก่กอไก่ เรายังไม่แวะทาน แต่พาร่างไปลุยตลาดกลางคืนกัน เดินกลับไปยัง exit 2 MRT Xiangshan (รวมเดินกลับ 20 นาที ไวขึ้นเพราะเดินลงเขา)

✅ 19.30 นั่งรถ MRT สายสีแดงเหมือนเดิมวิ่งกลับไป MRT JiantianStation ใช้ exit 1 (ลงสถานนี Jiantian จะใกล้กว่า สถานี Shilin)

✅ 20.00 ถึงตลาดกลางคืน Shilin  หิวมากกกกกกกกกกกกก ลุยครับมีไรกินหมด ตลาดที่นี่เหมือนเดินตลาดสะพานพุทธรวมกับประตูน้ำสำหรับผมเฉยๆ แต่ไปดูผู้คนมากกว่า

✅ 21.00 หลังจากเติมพลังเดินเล่นแล้วก็ได้เวลากลับที่พัก 


วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเดินทาง ท่องเที่ยวไต้หวันด้วนตัวเอง

ท้ายสุดนี้ก็หวังว่าข้อมูลตรงนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตาม 

แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าจ้า

ปล. วิธีกลับสนามบิน วันที่26/10/2016

 จากที่พักเดินไปสถานีขนส่ง Taipei West Bus Station Terminal A ซึ่งอยู่ถัดจาก Taipei station (ถ้าหันหน้าเข้า Taipei station สถานีขนส่งจะอยู่ทางซ้ายมือ หรือจำง่ายๆอยู่หน้า Exit Z3 ของ MRT พอดีเป๊ะ ถ้าใครเดินขึ้นมาจากใต้ดินทางออก Z3 ก็จะเจอเลย) เราจะขึ้นบัสสาย 1819 กลับไปสนามบินเถาหยวน  (ค่ารถ NT125 ) ซื้อตั๋วได้ที่เคาน์เตอร์มองหาไม่ยาก ใช้เวลาเดินทาง1ชม รถบัสจะออกทุกๆ15-20 นาทีจ้า

วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2559

Taiwan First Time Day3 เที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง วันที่3 (24/10/2016)

Taiwan First Time Day3 
เที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง วันที่3
24/10/2016



⭕️ จันทร์ 24/10/2016

1) Sun&moon Lake SML  (Nantou Round the lake bus weekend รอบน้อยมาก งั้นเราจะไป weekday)

6.00 ตื่นนอน  

✅ 7.00 ทานอาหารเช้าที่โรงแรม  

✅ 8.00 ออกจากที่พักเดินไป Taipei Raiway station เพื่อขั้น HSR (high speed rail) เพื่อไปไถ่จง (Taichung)

✅ 8.30 ซื้อตั๋ว HSR จาก Taipei ไป Taichung  (เราตัดสินใจว่าจะซื้อตั๋วหน้างานเพราะกล้วจะทำเวลาไม่ได้ ซึ่งคิดถูกเพราะขากลับตอนเย็นของวันนี้เราไปเจอสถาณการณ์รถบัสเต็มทำให้เราต้องขึ้นบัสรอบต่อไป )

✅ 8.46 ขึ้นรถไฟ

✅ 9.46 ถึงสถานี HSR Taichung เดินตามป้าย Exit 5-6 Bus station ลงไปชั้นล่าง 1F เพื่อต่อบัสที่ Exit5 และซื้อ Sun moon lake pass ตรงนั้น

      ลงไปชั้นล่าง    HSR Tsichung จะมีทางแยกซ้ายขวาระหว่าง exit 5 - 6 ให้ไปที่ทางออก 5 ตรงประตูทางออกจะมีป้ายบอกว่าไป SML (日月潭 = รื่อ เย่ว ถาน) / และตรงหน้า exit 5 จะมีเคาท์เตอร์สีขาวๆ ของบริษัท Nantou bus ที่นี่มี SML จำหน่าย (จากป้ายบัส A2 HSR taichung ถึง A11 SML รวม 1.30 ชม.) 



✅ 10.00 เราซื้อ SML pass แบบที่เป็น EasyCard 750NT ซึ่งถ้าใครมาไต้หวันแล้วนั่งรถไฟความเร็วสูงจากสนามบินไปเที่ยว SML ที่แรกก็ไม่ต้องซื้อ EasyCard จากสนามบินให้มาซื้อตัวนี้เลย ก็จะประหยัดค่าบัตรไปอีก100NT จ้า บัตรตัวนี้เป็นแบบรวมค่ารถบัสไปกลับ HSR taichung -SML / SML-HSR taichung (ปกติซื้อแยกขาละ 189NT รวม 378NT) + ค่านั่งเรือไปท่าต่างๆ + ค่าชึ้นกระเช้าชมวิว + ค่านั่งรถบัสชมรอบๆทะเลสาบ (ไม่รวมค่าขี่จักรยานริมทะเลสาบและไม่ร่วมเข้าFormosan Village)

✅ 11.30 ถึงปลายทาง SML ซึ่งก่อนที่เราจะเดินไปท่าเรือ เราจะต้องไปแลกตั๋วขึ้นเรือที่บูทตรงฝั่งตรงข้ามที่บัทจอดก่อน แต่โชคร้ายของเราที่บัตรเรือดันหมดต้องรอ 45นาที แต่ก็ไม่เป็นไร เรากำลังจะไปหาอะไรทานกลางวันพอดี

⭕️ รถ nantou bus จาก HSR Taichung จะมาจอดตรง Shuishe visitor Center ให้เราไปแลกตั๋วเรือที่ SML service station for bus & boat ตรงที่จอดรถบัส ใน Shuishe visitor center และเดินไปที่ nantou bus counter เพื่อเชคตารางรถขากลับไป HSR Taichung เพื่อความชัวร์ หรือถามเจ้าหน้าทีก็ได้/ จากนั้นเดินตามป้ายรูปเรือลงไปที่ท่าเรือ Shuishe

✅ 12.30 หลังจากทานอาหารกลางวันและไปแลกตั๋วขึ้นเรือแล้ว เราก็ไปที่ท่าเรือเพื่อรอขึ้นเรือหัวม้า พาไปดูกวางหัวเต่า (ไม่มีนะครับกวางหัวเต่า แค่คนบรรยายบนเรือเขาพูกภาษาจีน จับคำได้ว่า กวางหัวเต่า 555)



🌞🌚🌒🌜ภาพรวมทริป SML 🌑🌒🌚🌜
1) นั่งเรือจากท่า Shuishe ไปลงท่าวัด Xuanguang 
2) เดินเที่ยววัด Xuanguang นมัสการอัฐิพระถังซัมจั๋ง / ชมวิวเกาะ lula / ถ่ายภาพหินสลักชื่อ SML
3) นั่งเรือไปขึ้นท่า lia Thao หาของกิน และเดินเลียบทางเดินริมทะเลสาบไปสถานี ropeway
4) ขึ้น ropeway ไปยังสถานี Formosan Village ชมวิว SML มุมสูง / ถ่ายรูปด้านหน้า Formosan Village
5) กลับลง ropeway มาที่เดิมสถานี ropeway เดินไปป้ายรถเมล์ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ตรงนั้นป้ายไม่มีที่นั่ง ดูไม่เหมือนป้ายรถ จะอยู่ตรงจุดเช่าจักรยาน
6) ต่อบัส 6669 หน้าสถานี ropeway ไปวัดกวนอู Wenwu  และต่อบัส 6669 กลับ Shuishe visitor center 
7) Shuishe visitor center ขึ้นบัสกลับไปสถานี HSR Taichung และขึ้น HSR กลับ TPE

✅ 12.40 ลงเรือ จากท่าเรือ Shuishe นั่งไป 15 นาที ถึงท่า Xuanguang ก่อน และ จนท.จะแจ้งให้ทุกคนทราบว่าเรือจะออกไปยังท่า Ita Thao อีกทีกี่โมง แต่ฟังไม่ออก ถามเขาดู
✅ 13.00 จากท่าเรือเดินขึ้นไปชมวิววัด Xuanguang  Highlight 1) ชมวิวเกาะ lalu ซึ่งใกล้ที่สุด 2) นมัสการอัฐิพระถังซัมจั๋ง 3) ต่อแถวถ่ายรูปกับหินสลัดคำว่า SML 4) ชมวิวมุมสูง


💡💡ทะเลสาบ SML ทางด้านฝั่งตะวันออกของทะเลสาบคล้ายกับมีพระอาทิตย์ ส่วนทางด้านตะวันตกคล้ายกับมีพระจันทร์ จึงเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบสุริยันจันทรา และมีเกาะลาลู lalu เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่าเซา ในตำนานชาวเซาเป็นนักล่าสัตว์ที่ค้นพบทะเลสาบนี้ ขณะที่กำลังไล่ล่ากวางขาวผ่านบริเวณหุบเขา กวางได้นำพวกเขาไปยังทะเลสาบ แล้วพวกเขายังค้นพบแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ด้วยปลา ทุกวันนี้กวางขาวตัวนั้นยังเป็นตำนานที่ไม่มีวันลืมโดยมีรูปปั้นหินอ่อนเป็นสัญลักษณ์บนเกาะลาลู



14.00 ลงเรือ จากท่า Xuanguang ไปขึ้นที่ท่า Ita Thao 15 นาที 

✅ 14.30 ถึงท่า Ita thao หาของกินแนะนำปีกไก่ยัดข้าวเหนียว 小米麻糬 65NT (ถัดจาก 7-11) แล้วเดินทางเดินเลียบทะเลสาบเพื่อไปสถานี ropeway 

✅ 15.30 ขึ้น Ropeway ไป Formosan Village ชมวิวมุมสูง SML เดินไปต่อแถวขึ้นกระเช้า ไม่ต้องเข้าตัวตึก เดินขึ้นด้านนอกได้เลยระหว่างต่อแถวเตรียมฉีกตั๋ว ropeway เบอร์ 4 ไว้ให้ จนท. ก่อนขึ้น (ไม่ต้องนำไปแลกเป็นตั๋วอีกแล้ว) แต่ถ้าใช้ แบบEasyCard ก็จะมีเจ้าหน้าที่แตะให้ ใช้เวลา 8 นาที ก็มาถึงสถานีปลายทาง Formosa village

💡💡 Formosa village สร้างขึ้นในปี ค.ศ.  1986 เป็นหมู่บ้านจำลองชาวพื้นเมืองของไต้หวัน และเป็นแหล่งเรียนรู้ถึงวิถีชีวิตชาวพื้นเมือง ต่อมาได้สร้างสวนสไตล์ยุโรป สวนสนุก กระเช้าลอยฟ้า จัดแสดงโชว์ มีค่าเข้าชมคนละ 780 TWD ไม่รวมอยู่ในแพคเกจที่เราซื้อมา การเที่ยวชมในนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ค้างคืนบริเวณทะเลสาบ เพราะต้องใช้เวลาในการเที่ยวชม

✅ 16.00 จากด้านล่างสถานี ropeway 
               1) หากไม่ไปวัด Wenwu ก็คือกลับเลย โดยเดินกลับไปลงเรือท่า lta thao ลงเรือกลับไปยังท่า Shuishe และเดินไปที่ Shueishe Visitor Center เพื่อขึ้น Nantou bus กลับ HSR Taichung
               2) กรณีไปวัด Wenwu เดินไปป้ายบัส 250 เมตร (ป้ายอยู่ใกล้สถานี ropeway) ขึ้นรถ 6669 รอบ 16.31 (แนะนำถ้าทำเวลาได้ 15.31 จะดีกว่า)  รถบัสจะชับชิดเลนขวา (ไม่ใช่เลนชิดทะเลสาบ) ไปลงหน้าวัด รถบัสสาย 6669 เป็นรถบัสที่วิ่งรอบทะเลสาบ Round the lake bus  ฉีกคูปองหมายเลข 6 ยื่นให้กับคนขับรถ คนขับรถจะเปลี่ยนเป็นตั๋วแบบ 1 วันให้ (แบบEasyCardแตะโลด) นั่งรถประมาณ 10 นาทีก็มาถึงวัด Wenwu



 ✅16.45 ถึงวัด Wenwu 1) วิวทะเลสาบ 2) ซุ้มประตูทางเข้า 3) สิงโตเฝ้าวัด 4) แขวนระฆังปีนักษัตร 366 step (ระฆัง300NT)


💡Wenwu Temple เดิมทีบริเวณทะเลสาบสุริยันจันทรา มีวัดอยู่ 2 วัด แต่มีการสร้างเขื่อนที่ทะเลสาบ ทับที่ของวัด ทำให้วัดต้องหายไป หลังจากนั้นได้มีการสร้างวัดขึ้นมาแทน โดยสร้างเป็นวัดเดียว คือวัด Wenwu วัดนี้สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1938 สร้างเพื่ออุทิศให้กับเทพเจ้ากวนอู ตัวอาคารแบ่งเป็น 3 ส่วน มีรูปแบบสถาปัตยกรรมจากพระราชวังของจีน ควรเดินเข้าไปข้างในวัดให้สุด สวยมากๆ ส่วนใครจะแขวนระฆัง จุดที่แขวนจะอยู่ที่บันไดฝั่งตรงข้ามวัด ให้ข้ามถนนไป บันไดจะเริ่มจากเดือน12 ไล่ลงไป



✅ 17.50 เสร็จจากวัด Wenwu ก็รอรถบัสที่ป้ายเดิมเพื่อกลับ Shueishe Visitor Center  นั่งสาย 6669 รอบ 17.55 ตอนขึ้นรถโชว์ตั๋วใบสีขาวให้เค้าดู (แบบEasyCardแตะโลด) หลังจากนี้จะเดินทางกลับไทเป แบบเดียวกับขามา

 ✅ 18.10 ถึง Shueishe Visitor Center จุดเดิมที่มีรถตำรวจ ข้ามถนนไปต่อคิว Nantou bus รอบ 18.40 กลับ HSR Taichung หาไม่ยากตรงที่เขาต่อคิวกันเยอะๆ ใกล้ที่แลกตั๋วเรือเมื่อเช้าจุดเดียวกัน แต่เราดันเจอรถเต็มทำให้พลาดรอบ เลยต้องรอบ 19.25  เราเลยให้คนเฝ้าคิว แล้วแบ่งคนไปซื้อของกิน กินกันตรงนั้นเลย กลัวโดนแซง เพราะเป็นรอบสุดท้ายเดี๋ยวอดกลับ 5555 (จริงๆแผนเดิมว่าจะทานบนรถไฟความเร็วสูง แต่ไม่ไหวหิวมากกก)

✅ 20.40 ถึงสถานี HSR Taichung มีคนไม่ได้ทานข้าว เลยจัดที่สถานนีชิวๆไป

✅ 21.00 ซื้อตั๋วรถไฟความเร็วสูงรอบ 21.29 กลับ HSR Taipei ดูเหมือนว่าราคาจะถูกกว่านิดนึงเพราะเป็นรอบดึก  670NT

✅ 22.30 ถึง HSR Taipei เดินกลับที่พัก จบวันที่3 เม็มที่ใช้ถ่ายวีดีโอเต็มแต่ไม่เป็นไรซื้อหน้าโรงแรม ชิวๆ 555 (เหนื่อยโฮก) พรุ่งนี้ลุยพิพิธภัณฑ์ จุดชมวิวที่สวยที่สุดของไทเป และตลาดกลางคืนจ้า  

วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2559

Taiwan First Time Day2 เที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง วันที่2 (23/10/2016)

Taiwan First Time Day2 
เที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง วันที่2
23/10/2016




⭕️ อาทิตย์ 23/10/2016
1) อุทยานแห่งชาติ Yehliu 
2) อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค (Chiang Kai-Shek memorial hall)
3) ย่าน Ximending และวัดหลงซาน

✅ ตื่น 6.30 ✅ 7.00 ทานข้าวต้มกุ๊ยที่ Chair man hotel เหมือนเช่นเคย

✅ 8.30 เดินข้ามถนนไปสถานีขนส่ง Taipei West Bus Station Terminal A ซึ่งอยู่ถัดจาก Taipei station (ถ้าหันหน้าเข้า Taipei station สถานีขนส่งจะอยู่ทางซ้ายมือ หรือจำง่ายๆอยู่หน้า Exit Z3 ของ MRT พอดีเป๊ะ ถ้าใครเดินขึ้นมาจากใต้ดินทางออก Z3 ก็จะเจอเลย) ..เราจะขึ้นบัสสาย 1815 ไป Yehliu ถึงแล้วเดินเข้าไปต่อแถวที่ช่องรถบัส 1815 จะมีป้ายบอกชัดเจน (ค่ารถ NT96 ใช้ EasyCard แตะตอนขึ้นรถ และต้องมีเงินในบัตรอย่างน้อย 100NT ถึงจะแตะขึ้นได้ อย่าลืมเช็คเงินก่อนขึ้นด้วยนะ เดี๋ยวจะพลาดต้องไปเติมเงินเสียเวลา)

✅ 9.00 รถบัส 1819 มาถึงพอดี จากนั้นก็เดินขึ้นรถบัส เดินขึ้นไปแตะ EasyCard มีเสียงติ๊ดเป็นอันใช้ได้ จากนั้นก็หาที่นั่งตามอัธยาศัย ..ที่นั่งรถบัสไม่มีช่อง USB เสียบที่ชาร์ทมือถือ ควรพก Power bank ไปด้วยจะดีที่สุด ที่สำคัญห้ามสูบบุหรี่ และห้ามรับประมานอาหารบนรถบัส จึงควรทานข้าวเช้าและเข้าห้องน้ำมาให้เรียบร้อย เพราะบนรถไม่มีห้องน้ำ ที่สำคัญที่สุดอย่าลืมพกร่มและแว่นกันแดดไปด้วย เพราะอากาศไต้หวันไม่ร้อนก็ฝนตก VoV 

✅ 9.15 รถบัสเริ่มออกเดินทาง จากนั้นเราก็ปิดม่านและหลับทันที จะมาตื่นอีกทีตอนที่ใกล้ถึงที่หมายจะเป็นทางลดเลี้ยวขึ้นเขา บางคนอาจเวียนหัวได้ ..ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชั่วโมง คนขับจะประกาศว่า "แย่แล้ว" เป็นอันถึงที่หมายเพราะเวียนหัวจะแย่ยังไงหละ 5555

✅ 10.30 บัสจะจอดตรงใกล้ๆกับสามแยก ก่อนลงจากรถให้เอา EasyCard มาแตะแล้วค่อยลง จุดที่รถบัสจอดจะยังไม่ถึงเย่หลิ่ว ..จากนั้นให้เดินไปตรงสามแยก จะเห็นป้าย Yehliu Geopark (แท่งสามเหลี่ยมสีเขียว) ชัดเจน ..ให้เดินเลี้ยวซ้ายตามทางพื้นสีเขียวไปอีกประมาณ 800เมตร จะถึงเย่หลิ่ว ..มันไม่ได้รู้สึกไกล เพราะระหว่างทางจะเจอเรือประมงและร้านอาหารทะเล วิวริมทะเลทำให้ไม่น่าเบื่อ 

✅ 11.00 ถึง Yehliu Geopark รีบเดินเข้าไปซื้อตั๋วเพราะเดี๋ยวคนจะเยอะ เพราะมีรถทัวร์ลง ราคาตั๋วคนละ NT80 ด้านหลังตั๋วจะมีแผนที่จุดชมหินโซนต่างๆ ..จากนั้นก็เริ่มออกผจญภัย โดยเริ่มจากถ่ายรูปกับป้าย Yehliu Geopark ตรงทางเข้า แล้วเดินขึ้นไปที่ทางเข้าอุทยานซึ่งจะผ่านจุดจำหน่ายของที่ระลึก ส่วนทางเข้าจะมีคนคอยตรวจตั๋ว ผ่านเข้าไปแล้วด่านแรกทางขวามือจะเป็นมุมสวนเล็กๆคล้ายจุดนั่งพัก มีหินเศียรราชินีจำลอง ส่วนเราจะเดินชมจากทางด้านในก่อนแล้วค่อยมาเก็บข้างหน้าตอนขากลับ ..เดินต่อไปจะเจอทะเลเป็นอันเริ่มเข้าสู่อุทยานหินล้านปี จากนั้นกางร่มสิจะรออะไร ตอนที่ไปถือว่าโชคดีมากที่ไม่เจอฝน แต่ว่า UVA แรงมากเหมือนพุ่งตรงมาจากดวงอาทิตย์ แม้จะมีลมทะเลช่วยแต่ทว่าผิวไหม้กันทุกคน T_T ..เดินตามเขาไปก็จะเจอจุดชมวิวมุมสูงหลายจุด ส่วนไฮไลท์ของเราคือหินเศียรราชินี ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ต้องต่อแถวเข้าคิวเพื่อถ่ายรูป 15-30นาที มีโซนหินดอกเห็ด และหินรูปอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีมุมถ่ายรูปเก๋ๆเยอะมากแล้วแต่ใครจะครีเอท หากไม่เป็นลมแดดเสียก่อน โดยรวมแล้วสวยงามมาก ดีต่อตาและดีต่อใจ ควรถ่ายรูปเก็บไว้เยอะๆ 

✅ 12.00 เดินออกมานั่งรวมพลตรงจุดจำหน่ายของที่ระลึกตรงทางเข้าซึ่งเป็นห้องแอร์ ตอนนี้ทุกคนตัวแดงหน้าแดงกันเลยทีเดียว ได้เวลาหาของกินและเดินทางกลับไทเปเพื่อเริ่มทริปต่อไป ^_^ ..เดินกลับไปทางเดิมที่มาจากป้ายรถบัส 1819 ระหว่างทางเดินกลับมีร้านขายอาหารทะเลเพียบ ก็เลือกกินกันตามใจชอบ ดูราคาและเมนูหน้าร้านก่อนได้ (ทุกร้านจะราคาพอๆกัน ราคาค่อนข้างสูง แต่เป็นอาหารทะเลสดๆลากอวนกันเลยทีเดียว) ..จากนั้นเดินไปป้ายบัส 1819 (ขากลับ) ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกับป้ายที่ลงตอนขามา อยู่ตรงสามแยกพอดี

✅ 12.45 ขึ้นรถบัส 1819 กลับ Taipei West Bus Station Terminal A  ใช้เวลาเดินทาง 1ชั่วโมงกว่าๆขึ้นอยู่กับคนขับและรถติด

✅ 14.00 กลับมายังไทเปแล้ว โดยบัสจะมาจอดตรงด้านข้างสถานีขนส่ง Taipei West Bus Station Terminal A จากนั้นเราเดินไปลงสถานีรถไฟใต้ดิน MRT  Taipei main ตรง Exit Z7 ซึ่งอยู่ตรงที่จอดรถบัสพอดี และไปเที่ยวต่อที่อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค (CKS) โดยนั่งรถไฟใต้ดินสายสีแดงไปลง Chiang Kai-Shek memorial hall (2สถานี) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15นาที เดินออก Exit5 จะถึงที่หมาย

✅ 14.30 ถึงอนุสรณ์สถาน CKS คำแรกที่พูดออกมา โหอลังการ! มีอาคารทางซ้ายและขวาใหญ่โตมาก (National theater และ National concert hall) และมีซุ้มประตูขนาดใหญ่ทางด้านหน้าสวยงามมาก เราถ่ายรูปจากลานด้านหน้าไล่ไปจนถึงข้างในอาคารอนุสรณ์สถานท่านนายพลเจียงไคเช็คที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง (ท่านเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นประธานาธิบดีคนแรกของไต้หวัน) ภายในมีรูปปั้นท่านนายพล และมีพิธีเปลี่ยนเวรยามของทหารซึ่งจะผลัดเปลี่ยนทุกต้นชั่วโมง จำได้ว่าตอนเราไปโชคดีมาก ทันต้นชั่วโมงบ่ายสามพอดีเป๊ะ

✅ 15.30 เดินทางต่อเพื่อไปย่าน Ximending ในระหว่างทางกลับไป MRT Chiang Kai-Shek memorial hall เจอกลุ่มคนมาฝึกกังฟูด้วย ได้อารมณ์วัดเส้าหลินดี   ..ตอนขามาเรานั่ง  MRT สายสีแดง แต่ขากลับเรานั่งสายสีเขียวที่สถานีเดิมไปลง Ximen (2สถานี) ใช้เวลาประมาณ 15นาที เดินออก Exit6 อันเป็นจุดเริ่มต้นของย่าน Ximending

✅ 16.00 ถึงย่านซีเหมินติง ย่านช้อปปิ้งวัยรุ่นของชาวไทเป ซึ่งเหมือนชิบูย่าผสมเมียงดง คือมีความจอแจแออัดของผู้คนเหมือนชิบูย่า แต่มีร้านเครื่องสำอางจากเกาหลีเพียบ ..แต่เราเหนื่อยกันมาทั้งวัน เราจึงเดินมุ่งไปร้าน Mala Yuanyang Hotpot กันก่อน เพื่อกินบุฟเฟต์ ..จาก Exit6 ออกมาแล้วเลี้ยวขวาเข้าซีเหมินติง เดินตรงไปจะเจอสี่แยก ให้เลี้ยวซ้ายผ่านร้าน KFC แล้วเดินจนถึงสี่แยก เราก็จะเห็นป้ายร้านสีแดงฝั่งตรงข้ามเยื้องๆทางขวามือข้างๆ Adidas โดยร้านจะอยู่ชั้นสอง Mala Yuanyang Hotpot โดยร้านนี้เป็นบุฟเฟ่ต์บูชาบูสูตรไต้หวัน พิเศษตรงที่มีซุปหมาล่าเป็นน้ำซุปกระดูกหมูสมุนไพรจีนใส่เลือดหมูรสเผ็ดร้อน เราสามารถเลือกได้สองน่ำต่อหนึ่งหม้อ ร้านเปิด 11.30-05.00น. ราคาต่อหัวประมาณ 658NT (598NT+Vat10%) จำกัดเวลา 2ชั่วโมง 

 ✅ 16.30 เราเดินมาถึงร้านมีโต๊ะว่างสำหรับหกที่พอดี แต่จะทานได้แค่ 1ชั่วโมง 30นาทีเท่านั้น เพราะทางร้านมีคิวต่อตอน 6โมงเย็น ซึ่งเราก็ไม่มีปัญหา เพราะได้ข่าวว่ามีคนเคยรอหลายชั่วโมงกันเลยทีเดียว ..ข้อดีของร้านนี้คือมีอาหารให้ตักเองอย่างหนำใจ และเติมของสดอยู่เรื่อยๆไม่ให้ขาด เช่น ของสดมีซีฟู้ด ลูกชิ้น และผักตักไม่อั้น ของหวานมีเค้ก พุดดิ้ง ผลไม้ รวมถึงงานไอติมฉ่ำปอดอย่าง Haagen dazs และ Movenpick นับสิบรสให้ตักจนหนำใจ เพราะบ้านเราก็ Scoop ละร้อยแล้ว หุหุ  ^_^  ส่วนเครื่องดื่มมีน้ำผลไม้ และเบียร์สดไม่อั้นเช่นกัน ..เราใช้เวลากินแค่ชั่วโมงครึ่งก็ท้องจะแตกแล้ว ต้องไปเดินช้อปปิ้งย่อยกันต่อ

✅ 18.00 เสร็จจากบุฟเฟ่ต์หมาล่าก็ออกมาเดินย่านช้อปปิ้งซีเหมินติง สายเครื่องสำอางเกาหลี ญี่ปุ่น มีกระเป๋าฉีกหละงานนี้ เพราะบางอย่างถูกกว่าประเทศแม่อีก ส่วนโอปป้าก็ช้อปปิ้งรองเท้ากีฬารุ่นใหม่ๆซึ่งถูกกว่าบ้านเรา

✅ 20.00 ช้อปปิ้งเสร็จแล้ว เราจะไปต่อกันที่วัดหลงซาน เพื่อขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยามค่ำ ..จาก MRT Ximen Exit6 เดินลงไปนั่ง MRT สายสีน้ำเงินไปลง Longshan temple station (1สถานี) ประมาณ 10นาที เดินออก Exit1 จะเจอสวนสาธารณะเล็กๆ มองไปจะเห็นหน้าวัดอยู่ไม่ไกล ให้เดินผ่านสวนขึ้นไปประมาณ 200เมตร ..วัดหลงซานเป็นวัดพุทธและเต๋าผสมกัน ถือเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดของไทเป ภายในมีเทพกว่า 100องค์ และมีเจ้าแม่กวนอิมอายุ 200ปี เล่ากันว่าสมัยสงครามโลกวัดนี้ถูกระเบิดเสียหายแต่องค์เจ้าแม่กวนอิมกลับไม่เป็นอะไรเลย ^o^ คนไต้หวันส่วนใหญ่ก็จะมาขอพรเรื่องการงาน การเรียน และความรัก เพราะภายในมีเทพเฒ่าจันทราไว้ขอเนื้อคู่ด้วยนั่นเอง ..ตัววัดเปิด 6.00-22.00น. กลางคืนจะมีไฟสวยงามและอากาศก็ไม่ร้อนมาก ที่สำคัญคนน้อยกว่ากลางวัน ภายในก็คล้ายวัดเล่งเนี่ยยี่บ้านเรา ..จากนั้นเราจะเริ่มต้นเดินเข้าทางประตูมังกรทางขวามือ พอเข้าไปแล้วด้านขวามือจะมีธูป เทียน และของไหว้ (เราสามารถรับฟรีเฉพาะธูป ส่วนอย่างอื่นต้องเสียเงิน) ..ธูปที่ได้ทั้งหมดจะมี 3แท่ง เพราะจะมีจุดให้สักการะและกระถางให้ปัก 3ที่ (ไต้หวันจะจุดธูปสักการะเพียงแค่ดอกเดียว) โดยจุดแรกอยู่ตรงกลางวัดคือกระถางธูปบูชาเจ้าแม่กวนอิม จุดที่สองให้เดินขึ้นบันไดไปด้านบนคือกระถางธูปบูชาเทียนกงโดยให้หันหน้าออกหน้าวัดแล้วไหว้ และจุดที่สามอยู่ทางด้านหลังคือกระถางธูปบูชาเทพต่างๆที่ประดิษฐานอยู่ทางด้านหลัง อีกทั้ง ด้านซ้ายในสุดจะเป็นที่ตั้งของเทพเฒ่าจันทรา ซึ่งเป็นเทพที่คนหนุ่มสาวนิยมมาทำพิธีขอเนื้อคู่และนำด้ายสีแดงกลับไป ..ขากลับอย่าลืมเสี่ยงเซียมซีตรงแท่นบูช้าด้านหน้าใกล้กับประตูทางออกด้วย แม่นมากๆ ^o^

✅ 21.30 เมื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางกลับที่พัก ..จาก MRT Longshan temple station นั่งสายสีน้ำเงินไปลง Taipei main sttion (2สถานี) ประมาณ 15นาที และเดินผ่าน Undergroung shopping ซึ่งส่วนมากก็ทยอยปิดกันหมดแล้ว มีแค่ Drug store ที่ยังคงเปิดอยู่ เครื่องสำอางในร้านถูกกว่าที่ซีเหมินติงอีก กับดักของสาวๆเขาเลย 555555 ..ซึ่งขากลับที่พักในทุกๆวัน เราจะเดินไปขึ้นที่ Exit Z4 เพราะมีลิฟท์ และเดินไปที่พัก Chair man hotel

✅ 22.00 ถึงที่พัก Chair man hotel รีบเข้านอน เพราะวันพรุ่งนี้กับการเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองครั้งแรก เราจะไปทะเลสาบสุริยันจันทรากัน 

วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

Taiwan First Time Day1 เที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง วันที่1 (22/10/2016)

Taiwan First Time Day1 
เที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง วันที่1
22/10/2016


รายละเอียดการเดินทาง

⭕️ เสาร์ 22 Bkk-Tpe : 
     1) เข้าเมือง / Check-in รร. Chair man hotel  
     2) Carrefour Chung Xin

✅  11.10 ออกจาก Bkk 

✅ 16.15 ถึงสนามบินเถาหยวน TPE (terminal1) จากนั้นเดินตามชาวบ้านเขาไปตามป้าย immigration ไปเรื่อยๆจนไปถึงจุดถ่ายรูปมุมบังคับของสนามบินเถาหยวน จะเจอเคาน์เตอร์ขายซิม internet ทางซ้ายมือ ซึ่งมีให้เลือกถึงสามผู้ให้บริการ เราเลือก Chunghwa Telecom ยอดฮิตของคนไทย :) เราเลือกแพคเกจแบบ (B) 5วัน Net Umlimiited ราคา 300NT มีค่าโทร 50NT  (แนะนำให้เลือกแบบค่าโทรน้อยที่สุดเพราะเราจะใช้แต่เนต เช่น อีกตัวแบบ (C) 5วัน เหมือนกันแต่ราคา 500NT มีค่าโทร 300NT คือโทรเยอะมากเหมาะกับคนจะจัดทริปเดินป่ากลัวหลง 55555) ถึงตรงนี้ซิมไต้หวัน Net Unlimited ทุกแพคเกจนะเออ ไม่มีกั๊ก ..จากนั้นถ้าไม่รีบก็ถ่ายภาพมุมบังคับสวยสุดในสนามบินเถาหยวน เป็นแสงลอดลงมาจากหลังคาสะท้อนกับพื้นสวยเก๋ดี      
✅ 16.30 ต่อแถวเพื่อตรวจคนเข้าเมือง ง่ายมากชิลๆไม่ดราม่า :) ..พอผ่าน ตม. จากนั้นไปรับกระเป๋า แล้วเดินออกมาข้างนอกตามป้าย Bus to city เพื่อนั่งรถบัสเข้าเมือง  ..แอ่น แอ่น แอ๊น แต่ทันใดนั้นเองเราเจอเคาน์เตอร์สีแดง Electronic Stored Value Card Service ชื่อยาวเกิน จำง่ายๆเห็นรูป Easycard จบนะ เดินเข้าไปซื้อเลย ซึ้อครั้งแรก 500NT เป็นค่าบัตร 100NT เงินคงเหลือที่ใช้ได้ 400NT แต่ยังสามารถแลกคืนเงินที่เหลือได้ที่เคาน์เตอร์สนามบินหากใช้ไม่หมด (ยกเว้นค่าบัตร 100NT เป็นแบบซื้อขาดคืนเงินไม่ได้) ..ถึงตรงนี้ถ้าใครอยากได้ EasyCard ลาย Limited เก๋ๆ หรือเป็นพวงกุญแจ ให้ไปซื้อที่ร้าน 7-11 ในเมือง เช่น ลายการ์ตูน Sanrio เป็นต้น ..ส่วนการเติมเงินก็แสนง่ายมากเติมจากตู้เติมเงิน หรือง่ายกว่านั้นเหมาะกับคนขี้เกียจเช่นเรา ก็เติมเงินกับพนักงานในร้าน 7-11


✅ 17.00 ยังคงเดินตามป้าย Bus to city เพื่อลงไปชั้นล่างสนามบิน จะเจอท่ารถบัสเข้าเมือง เราเลือกใช้บริษัทยอดฮิตของคนไทย Kuo-Kuang Motor Transport อ่านว่ากั่วกวง ที่ช่อง 7-8 สาย 1819 สุดสายที่ Taipei main station ค่าโดยสารสำหรับผู้ใหญ่ 125NT สำหรับเด็กและคนชรา 65NT) พอได้ตั๋วแล้วก็ออกมาข้างนอกที่ช่องจอดรถบัสเบอร์ 5 สังเกตง่ายๆเป็นช่องที่คนต่อแถวยาวสุด ขณะต่อแถวจะมีพนักงานมาตรวจตั๋ว และเขาจะให้สติ๊กเกอร์กับเรา 2ใบ แปะกระเป๋า 1ใบ และอีกใบให้เราเก็บไว้กับตัวเพื่อให้พนักงานตอนรับกระเป๋า

✅ 17.20 ทยอยขึ้นรถบัส ในรถบัสมีช่องเสียบสายชาร์จมือถือ USB ด้วยนะเออ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชั่วโมง เพราะมีรถติดบ้าง 


✅ 18.20 บัสจะมาจอดริมถนนตรง Taipai main station (สำหรับเราพักที่ Chair man hotel อยู่ระหว่าง Taipei main กับ Ximen) ตอนลงรถบัสฝนดันตกจึงต้องเดินเข้าไปใน Taipei station เพื่อเดินลงไปทางเดินรถไฟฟ้าใต้ดินแล้วเดินตามทาง Underground shopping ไปยัง Exit Z4 เพราะมีลิฟท์ หรือหากใครพักย่านอื่นก็สามารถต่อรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีแดงหรือสายสีน้ำเงินได้เลย 

✅ 18.45 Check-in Chair man hotel (อยู่แถวย่านกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพ) ห้องพักค่อนข้างเก่าเพราะเปิดมานานและมีขนาดเล็ก แต่อยู่ระหว่างย่าน Taipei main และ Ximen ถือว่าสะดวกในการเดินทางมาก แถมมี Underground shopping ให้เดินเล่นได้อีก ที่สำคัญราคาเฉลี่ยต่อคน/คืน 700 กว่าบาทเอง และยังมีอาหารเช้าเป็นข้าวต้มกุ๊ยด้วย ถือว่าคุ้มค่า ..อย่าลืมเวลาออกจากโรงแรมต้องฝากกุญแจที่เคาน์เตอร์พนักงานตอนรับนะเออ :)

✅ 19.00 ออกไปกินมื้อเย็นร้านข้าวญี่ปุ่น Yoshinoya ยอดฮิตของคนไทย (ตอนขามาจาก Taipei main เดินไปโรงแรม มาตามถนนที่มีร้าน H&M สาขาใหญ่มาก และเดินตรงไปจะเจอ Yoshinoya อยู่ซ้ายมือ ตรงทางที่จะมุ่งไป National Taiwan museum) ถึงตอนนี้เหนื่อยและตาลายกันถ้วนหน้า เลยจัด Yoshinoya คนละเซท ส่วนราคาจำได้ว่าพอๆกับญี่ปุ่น แต่อลังการกว่า ไข่ตุ๋นเทพมาก

 ✅ 19.30 ค่ำนี้ยังอีกยาวไกลสินะ เดินทางต่อไปยัง Carrefour Chung Xin Outlet อย่าตกใจเราไปทำไมคาร์ฟูร์ แต่มันเป็นซุปเปอร์มาร์เกตและเอาท์เล็ทนะยูววววว คนไทยน่าจะรู้จักดี เพราะมันอยู่ในหนึ่งในสิบห้างช้อปปิ้งในไทเป ..เราเดินทางไกลหน่อย ประมาณ 50 นาที ออกไปทางซ้ายของไทเป เริ่มจากเดินไปสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT Taipei main station ประมาณ 250เมตร ใช้ EasyCard แตะขึ้นรถไฟฟ้า (EasyCard จะได้ส่วนลดรถไฟฟ้า MRT 20%) นั่งสายสีแดงไปลงที่สถานี Minquan West Road (3สถานี) และเปลี่ยนเป็นสายสีส้มไปลงที่ Xianse Temple (5สถานี) รวม 45นาที และเดินต่ออีก 600 เมตร ประมาณ 10 นาที ก็ถึงที่หมาย

✅ 20.30 ถึง Carrefour Chung Xin Outlet ชั้นบนเป็นซุปเปอร์มาร์เกตของจะถูกกว่าร้านสะดวกซื้อ 7-11 เช่น ชานม ชาเขียว ยอดฮิต และขนม เป็นต้น มีชั้นอุปกรณ์ IT และกล้องถ่ายภาพซึ่งถูกกว่าบ้านเรา ส่วนชั้นล่างเป็นเอาท์เล็ทซึ่งถูกกว่าเมืองไทย เช่น Addidas, Nike และ Onitsuka tiger เป็นต้น ซึ่งเราเดินทางมาทั้งวัน ปรากฏว่าร่างแทบพังวิญญาณแทบไม่มี มาถึงก็มึนไม่มีอารมณ์ช้อปปิ้ง ..แนะนำว่าถ้าใครมีเวลาควรให้เวลากับที่นี่ มาเดินชิลๆช้อปปิ้งกัน หรือมาวันสุดท้ายก่อนกลับเพื่อซื้อของฝากก็ได้ :) ..แต่น้องๆเราก็ขนชานม ชาเขียวขวดๆ ราคา 22NT ตุนไว้เพียบ (ส่วน 7-11 ราคา 33NT)

✅ 21.30 รีบเดินทางกลับที่พัก เพราะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง และต้องรีบนอน เพราะพรุ่งนี้ตื่นแต่เช้ากับทริปวันที่ 2 อย่าลืมติดตามกันต่อน้าาาาาาาาา